อบจ.นราธิวาส จับมือสาธารณสุขจังหวัด จัดกิจกรรมสัปดาห์ราชประชาสมาสัยภายใต้แนวคิด “โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้”
อบจ.นราธิวาส จับมือสาธารณสุขจังหวัด จัดกิจกรรมสัปดาห์ราชประชาสมาสัยภายใต้แนวคิด “โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้” อบจ.นราธิวาส จับมือสาธารณสุขจังหวัด จัดกิจกรรมสัปดาห์ราชประชาสมาสัยภายใต้แนวคิด “โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดสร้างสถาบันราชประชาสมาสัย เป็นสถานศึกษา ค้นคว้า วิจัย ฝึกอบรม และให้ความรู้เรื่องโรคเรื้อน
.
วันนี้ (16 ม.ค.67) นายมะหะมัด ฮามิ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายซัมซูดิง รอเซะ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข อบจ.นราธิวาส เข้าร่วมกิจกรรมสัปดาห์ราชประชาสมาสัย จังหวัดนราธิวาส ปี 2567 ภายใต้แนวคิด “โรคเรื้อนรักษาหาย รู้เร็วรักษาทัน ป้องกันความพิการได้” ที่หอประชุมร่มไทร โรงเรียนนราสิกขาลัย อำเภอเมืองนราธิวาส โดย อบจ.นราธิวาส บูรณาการร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา โรงพยาบาลโรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้ จังหวัดตรัง โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์โรงพยาบาล/สำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ จัดกิจกรรมขึ้น ทั่งนี้ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสร้างความตระหนักให้ประชาชนได้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ทั่วประเทศเพื่อเร่งรัดการดำเนินงานโรคเรื้อน ในสัปดาห์ของวันราชประชาสมาสัย
.
นายแพทย์สมบูรณ์ บุญกิตติชัยพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า โรคเรื้อน เป็นโรคที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงห่วงใย และรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทรงพระกรุณาโปรดเก้าพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อจัดสร้างสถาบันราชประชาสมาสัยสำหรับใช้ในการศึกษาค้นคว้า และสนับสนุนการดำเนินงานควบคุมโรคเรื้อนตลอดมา จนทำให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จด้วยดี //พร้อมฝากช่วยกันรณรงค์ค้นห้าผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ให้ได้รับการตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาอย่างถูกต้องโดยเร็ว เพื่อลดการเกิดความพิการ ตัดวงจรการแพร่เชื้อในชุมชน รวมถึงช่วยเหลือเอื้ออาทรต่อผู้ป่วย ไม่รังเกียจผู้ป่วย ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้ดำรงชีวิตในชุมชนได้ตามปกติ เพื่อสืบสานตามพระราชปณิธาน
.
ด้านนายแพทย์เอกวิทย์ จินดาเพ็ชร นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ (16 ม.ค.67) ประกอบด้วย การจัดนิทรรสการความรู้โรคเรื้อน การให้บริการตรวจโรคผิวหนังแก่ผู้สงสัยเป็นโรคเรื้อน และโรคผิวหนังทั่วไป การมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบปัญหาโรคเรื้อน //สำหรับสถานการณ์โรคเรื้อนในเขตสุขภาพที่ 12 ปี 2562-2566 ยังพบผู้ป่วยรายใหม่ทุกปี เฉลี่ยปีละ 15-25 ราย อีกทั้งยังพบผู้ป่วยรายใหม่ที่มีความพิการและที่เป็นเด็ก//จังหวัดนราธิวาส ในปี 2566 มีผู้ป่วยโรคเรื้อนในทะเบียนรักษา 24 ราย คิดเป็นอัตราความชุด 0.30 ราย ต่อหมื่นประชาชนกร และพบผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ทุกปี ในช่วง 5 ปี ย้อนหลัง เฉลี่ยปีละ 6-14 ราย
.
ขณะที่นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า โรคเรื้อน เป็นโรคที่พบมานานในประเทศไทย ในอดีตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงตระหนักถึงปัญหาโรคเรื้อน จึงได้พระราชทานทุนอานันทมหิดล ให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดตั้งสถาบัน “ราชประชาสมาสัย” สำหรับเป็นสถานศึกษา ค้นคว้า วิจัย ฝึกอบรม และให้ความรู้เรื่องโรคเรื้อน//ในปี 2501 ถือเป็นยุคเร่งค้นหาผู้ป่วยและรักษาโรคเรื้อนที่บ้าน ทรงมีกระแสรับสั่งให้เร่งจัดการปัญหาโรคเรื้อน และพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ร่วมกับพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ ประชาชน สมาคม โรงเรียน บริษัทร้านค้า และชาวต่างประเทศ ในการก่อตั้งสถาบันราชประชาสมาสัย อันมีความหมายว่า พระราชาและประชาชนย่อมพึ่งพาอาศัยกัน //ทรงเสด็จพระราชทานดำเนินไปประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารหลังแรก วันที่ 16 มกราคม 2501 และเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เปิดอาคาร เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2503 กรมควบคุมโรคจึงถือเอาวันที่ 16 มกราคม ของทุกปีเป็นวันก่อตั้งสถาบันราชประชาสมาสัยและจัดงานวันราชประชาสมาสัยเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นประจำทุกปี
.
|