กองสาธารณสุขสร้างองค์ความรู้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) ด้านการจัดเก็บรายได้ค่ารักษาพยาบาล
กองสาธารณสุขสร้างองค์ความรู้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) ด้านการจัดเก็บรายได้ค่ารักษาพยาบาล วันนี้ ( 17 ก.ย. 67 ) องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส โดยกองสาธารณสุข นำโดยนายซัมซูดิน รอเซะ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข จัดโครงการพัฒนาศักยภาพสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย บุคลากรและเจ้าหน้าที่ในสังกัดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 57 แห่ง จาก 7 อำเภอ จำนวน 130 คน เพื่อให้เข้าใจหลักที่สำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจต่างๆ ด้านสาธารณสุข ตามนโยบายของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสให้สัมฤทธิ์ผล ซึ่งถือว่ามีจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาบุคลากร ทั้งด้านทักษะการปฏิบัติงาน องค์ความรู้ ควบคู่กับการบูรณาการ การประสารงานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในพื้นที่
.
นอกจากนี้ในโครงการฯ มีการพัฒนาทักษะให้ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคติดต่อและไม่ติดต่อ การป้องกันและควบคุมโรคระบาดในพื้นที่ และการจัดเก็บรายได้ค่ารักษาพยาบาลของหน่วยบริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ด้วย เพื่อให้บุคลากรมีความรู้และความสามารถในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงสุขภาพในชุมชน และเพื่อให้บุคลากรเกิดความเข้าใจในนโยบาย หลักการของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ รวมถึงให้บุคลากรมีความสามารถด้านบริหารจัดการข้อมูลมูลสารสม.ทศล้ำของ ชุมชนได้ ตลอดจนเป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพเพื่อสร้างเสริมความรู้ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะที่ดีของชุมชน
.
สำหรับการจัดโครงการฯ ในครั้งนี้กำหนดจัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 17-18 กันยายนนี้ ณ โรงแรมมารีน่า อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส โดยมีวิทยากรให้ความรู้จาก สปสช.เขตที่ 12 สงขลา มาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับค่าชดเชยค่าบริการ การจัดสรรงบประมาณสำหรับ รพ.สต. ถ่ายโอน การตรวจสอบสิทธิ์ของประชากรในฐานข้อมูล การบริการด้านสร้างเสริมสุขภาพ บริการด้านการแพทย์ แนวทางการบันทึกข้อมูล การบันทึกข้อมูลสิทธิ อปท. เป็นต้น
.
ด้านนายมะหามัด ฮามิ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นประธานเปิดโครงการฯ กล่าวเน้นย้ำกับบุคลากรทั้ง 130 คน ว่าขอให้ทุกคนนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้เป็นแนวทางในการทำงาน โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลให้กับประชาชน เพื่อให้ทุกคนได้รับการรักษาที่เท่าเทียม
.
|